ฝรั่งเศสประท้วงเดือด เดินหน้าต่อต้านกฎหมายปฏิรูปบำนาญ

ความวุ่นวายนี้เกิดขึ้นที่ใจกลางกรุงปารีส เมืองหลวงของฝรั่งเศส เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ ผู้ประท้วงบางกลุ่มก่อเหตุจลาจล จุดไฟเผากองขยะ ปาก้อนหิน สี และขวดน้ำใส่เจ้าหน้าที่ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ปาแก๊สน้ำตาใส่ผู้ชุมนุมเพื่อควบคุมเหตุจลาจล จนเกิดการปะทะกันระหว่างทั้ง 2 ฝ่ายอย่างรุนแรง นอกจากนี้ยังมีการจุดไฟเผาร้านอาหารฝรั่งเศสแบบดั้งเดิม แห่งหนึ่งในย่านมงต์ปาร์นาส ซึ่งเป็นร้านอาหารโปรดของประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศสอีกด้วย

กทม.สั่งพักราชการ หน.ฝ่ายรายได้ ราชเทวี รีดเงิน 3.2 ล้าน

ขยายผล หน.ฝ่ายรายได้ เขตราชเทวี พบหลอกผู้ประกอบการกว่า 100 ราย

ขณะเดียวกัน ผู้ประท้วงกลุ่มใหญ่ได้บุกเข้าไปในสำนักงาน BlackRock บริษัทด้านการลงทุนของสหรัฐฯ ที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงปารีส และจุดพลุแฟลร์จนเกิดควันคลุ้งไปทั่วอาคาร เนื่องจากบริษัทแห่งนี้มีบทบาทหลักในการจัดการและโอนเงินบำนาญให้แก่ประชาชน ผู้ประท้วงจึงเดินทางมาที่นี่เพื่อแสดงการต่อต้าน

 ฝรั่งเศสประท้วงเดือด เดินหน้าต่อต้านกฎหมายปฏิรูปบำนาญ

แม้ว่าบางจุดจะเกิดความวุ่นวาย แต่ภาพรวมของการประท้วงก็เป็นไปอย่างสงบเรียบร้อยผู้คนจำนวนมากออกมาเดินขบวน ร้องตะโกนต่อต้านกฎหมายปฏิรูปบำนาญ บางคนถือป้ายที่ระบุว่า "พวกเรามีอายุยืนยาวก็เป็นเรื่องดี แต่ไม่ควรมาตายเพราะการทำงานหรือได้รับแค่ค่าแรงขั้นต่ำ” หรือ “มาครงลาออกไปซะ แม้ตอนนี้คุณจะอยู่ที่จีนแต่คุณก็หนีเสียงของพวกเราไม่พ้น” ผู้ประท้วงรายนี้บอกว่าจะไม่ยอมแพ้และจะออกมาประท้วงต่อไปเรื่อยๆ จนกว่ารัฐบาลมาตรงจะถอนกฎหมายปฏิรูประบบบำนาญ

นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าโรงเรียนหลายแห่งในกรุงปารีสประกาศหยุดการเรียนการสอน เนื่องจากราวร้อยละ 20 ของครูโรงเรียนประถมในกรุงปารีสได้หยุดงานเพื่อร่วมเดินขบวนประท้วงคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

การประท้วงลักษณะนี้ยังเกิดขึ้นในอีกหลายเมือง เช่น ในเมืองกาเลส์และเมืองแรนส์ ทางตอนเหนือของฝรั่งเศส การประท้วงส่วนใหญ่เป็นการเดินขบวนอย่างสงบ แต่บางจุดก็เกิดการปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ตำรวจเช่นกัน

ทั้งนี้ กระทรวงกิจการภายในฝรั่งเศสระบุว่า การประท้วงที่เกิดขึ้นทั่วประเทศเมื่อวานนี้ มีผู้เข้าร่วมมากกว่า 570,000 คน ขณะที่สหภาพแรงงานเชื่อว่าตัวเลขของผู้ออกมาประท้วงอาจสูงกว่านั้น ที่เกือบ 2 ล้านคน

นี่เป็นครั้งที่ 11 แล้ว ตั้งแต่การประท้วงครั้งแรกเมื่อวันที่ 19 มกราคมเป็นต้นมาที่ชาวฝรั่งเศสพากันออกมาชุมนุมและนัดหยุดงานเป็นระยะๆ ประเด็นหลักที่ทำให้ผู้คนไม่พอใจ คือ รัฐบาลจะเพิ่มอายุเกษียณอีก 2 ปี จากเดิมที่กฎหมายกำหนดไว้ว่าให้ชาวฝรั่งเศสเกษียณตอนอายุ 62 ปี เป็น 64 ปี ซึ่งแม้รัฐบาลจะเสนอเพิ่มเงินบำนาญขั้นต่ำจากเดิม 1,000 ยูโรหรือราว 37,000 บาทต่อเดือน เป็น 1,200 ยูโรหรือราว 44,000 บาทต่อเดือน แต่ประชาชนต้องจ่ายเงินสมทบนานขึ้น จาก 41 ปี เป็น 43 ปี เพื่อให้ได้เงินบำนาญเต็มจำนวน

จากกระแสความไม่พอใจที่มากขึ้นเรื่อยๆ จากทั้งประชาชนและฝ่ายค้าน รัฐบาลของมาครงจึงตัดสินใจใช้อำนาจมาตรา 49:3 ตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะช่วยให้ร่างกฎหมายปฏิรูประบบเงินบำนาญผ่าน โดยไม่ต้องผ่านความเห็นชอบจากสภา แม้ฝ่ายค้านจะยื่นขอลงมติไม่ไว้วางใจ แต่รัฐบาลมาครงก็รอดมาได้ และนั่นส่งผลให้ร่างกฎหมายปฏิรูปเงินบำนาญผ่านการรับรองด้วยเช่นกัน

ซึ่งประธานาธิบดีมาครงก็ประกาศว่าจะเดินหน้าผลักดันร่างกฎหมายไปจนสุดทาง โดยให้เหตุผลว่า จำนวนผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จะทำให้ในอนาคตระบบบำนาญของฝรั่งเศสจะเผชิญกับการขาดดุลและกระทบต่อจำนวนเงินที่คนวัยเกษียณจะได้รับ ซึ่งการปฏิรูปครั้งนี้จะสร้างความมั่นคงให้กับระบบนี้ในอนาคตและจะพยายามผลักดันให้มีการบังคับใช้ภายในปลายปีนี้

และนั่นทำให้การประท้วงกลับลุกลามและทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น ที่รุนแรงที่สุดคือเมื่อวันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมา มีผู้เข้าร่วมกว่า 1 ล้านคน ระบบการขนส่งทั้งสนามบินและสถานีรถไฟเกือบทั่วประเทศได้รับผลกระทบจากการประท้วงหยุดงานของกลุ่มแรงงาน เกิดเหตุจลาจลในหลายเมือง มีการเผาอาคารและร้านค้า รวมถึงทำลายทรัพย์สินสาธารณะและปล้นร้านค้า

นอกจากนี้ยังเกิดการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้ประท้วง เจ้าหน้าที่ได้ใช้แก๊สน้ำตาและระเบิดแฟลชเพื่อปราบจลาจล ส่วนผู้ประท้วงก็ปาระเบิดขวดและพลุไฟเพื่อตอบโต้ ลงเอยด้วยการมีผู้ถูกจับกุมตัวมากกว่า 400 คน

ขณะที่เมื่อวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา นายกฯ เอลิซาเบธ บอร์น ของฝรั่งเศสได้เปิดการเจรจาร่วมกับฝ่ายค้านและสหภาพแรงงานเกี่ยวกับการปฏิรูประบบบำนาญแล้ว แต่ผลการเจรจาก็ล้มเหลว เนื่องจากรัฐบาลฝรั่งเศสไม่ยอมถอยและยืนยันว่าจะเดินหน้าปฏิรูประบบบำนาญต่อไป

สภาพแรงงานจึงประกาศว่าจะเดินหน้าประท้วงต่อไปจนกว่ารัฐบาลจะถอนร่างกฎหมายดังกล่าว และนัดหมายการประท้วงครั้งต่อไปแล้วในวันพฤหัสบดีที่ 13 เมษายน หนึ่งวันก่อนที่สภาร่างรัฐธรรมนูญของฝรั่งเศสจะพิจารณาร่างกฎหมายนี้